เปิดสูตร 5 เทคนิคทำ Affiliate Marketing ทำยังไงให้ปัง
ปัจจุบันโลกของเราได้เปลี่ยนเป็นโลกแห่งดิจิทัล ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบการซื้อขายสินค้า ที่ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก จากการซื้อขายในตลาด หรือห้างสรรพสินค้า ก็เปลี่ยนเป็นในรูปแบบออนไลน์ จนเกิดตลาด E-commerce ขึ้นมา ทำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ต้องเรียนรู้ และปรับตัวกับรูปแบบการตลาดที่เปลี่ยนไป ซึ่งกลยุทธ์ Affiliate Marketing ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการทำการตลาดบนโลกของ E-commerce หากต้องการให้ยอดขายปังต้องเรียนรู้ไว้เลย
Affiliate Marketing คือ
Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบพันธมิตร คือ รูปแบบการตลาดที่ให้บุคคลอื่นช่วยโปรโมตสินค้าให้ หรือที่เรียกว่านายหน้า โดยจะทำผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งพาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยโปรโมตนั้นส่วนมากจะเป็น Influencer หรือ Blogger ทั้งนี้พาร์ทเนอร์จะนำสินค้าเราไปทำคอนเทนต์ หรือรีวิว แล้วแปะเป็นลิงก์ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้ามาดู และซื้อสินค้าได้เลย ซึ่งตัวพาร์ทเนอร์จะได้ค่าตอบแทนจากแบรนด์เป็นค่าคอมมิชชัน โดยที่ตัวพาร์ทเนอร์ไม่จำเป็นต้องสต็อกของ หรือจัดส่งสินค้าเอง จึงถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ดีสามารถเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ จากสถิติของ Demandsage พบว่า ในปี 2024 Affiliate Marketing มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 27.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และนักการตลาด 83% ใช้กลยุทธ์นี้ เพื่อเพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์
แพลตฟอร์ม E-commerce ที่เปิดรับนายหน้า
Shopee
โปรแกรม Affiliate Shopee เป็นโปรแกรมที่เปิดให้พาร์ทเนอร์ที่เข้ามร่วมสร้างคอนเทนต์โปรโมตเกี่ยวกับตัวสินค้าในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook Instagram แล้วแปะลิงก์สินค้าของร้านค้า ซึ่งร้านค้าสามารถกำหนดค่าคอมมิชชันเองได้ผ่าน Seller Center และร้านค้าจะต้องเสียค่าคอมมิชชันให้กับพาร์ทเนอร์ที่ขายสินค้าได้เท่านั้น นอกจากนี้ทาง Shopee ก็จะออกค่าคอมมิชชันเพิ่มให้อีก 10 % จากที่ร้านค้าจ่าย เพื่อเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าถูกเลือกโปรโมตจากพาร์ทเนอร์มากขึ้น
Lazada
โปรแกรม Affiliate Lazada เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ได้เปิดให้มีพาร์ทเนอร์ดึงสินค้าไปโปรโมตในช่องทาง โซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยหากมียอดขายที่เกิดจากลิงก์ Affiliate ที่พาร์ทเนอร์ได้แปะไว้ ร้านค้าต้องจ่ายเงินให้กับ Lazada ตามเปอร์เซ็นที่ตกลงกันไว้ แต่ที่น่าสนใจสำหรับการทำ Affiliate Lazada คือพาร์ทเนอร์จะได้ค่าคอมมิชชันสูงสุดถึง 80 % ซึ่งเป็นการดึงดูดพาร์ทเนอร์ให้เข้ามาร่วมโปรแกรมเป็นอย่างมาก ซึ่งก็จะช่วยส่งผลให้แบรนด์ของเราได้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และทาง Lazada เองก็ยังเคลมไว้ว่าเป็นช่องทางออนไลน์ Shopping mall ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Lazada จะมีฐานลูกค้าเยอะ อาจจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้นนั่นเอง
TikTok
Affiliate tiktok จากแพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสู่ตลาด E-commerce เจ้าใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดโปรแกรม Affiliate แล้วเช่นกัน เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะในตัวแพลตฟอร์มร้านค้าสามารถลงขายสินค้าได้เลยผ่าน TikTok Shop และต่อเนื่องมาถึงการทำ Affiliate ผ่านเหล่า Influencer และ Creator ในแพลตฟอร์มซึ่งมีอยู่มากมายได้เลย และร้านค้าสามารถกดเชิญ Invite พาร์ทเนอร์ได้ด้วยตนเองด้วย เป็นอีกช่องทางสำคัญที่ช่วยส่งเสริม Awareness และยอดขาย ที่เจ้าของแบรนด์ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว
5 เทคนิค ทำ Affiliate Marketing ยังไงให้ได้ผล
หากต้องการใช้กลยุทธ์เพื่อทำการตลาดให้ได้ผลลัพธ์ ก็จำเป็นต้องมีเทคนิค และมีการวางแผนที่ดี เพื่อให้แบรนด์และสินค้าได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจนสามารถเพิ่มยอดขายได้จริง
1. ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
แน่นอนว่าในการทำธุรกิจสิ่งที่สำคัญ คือการที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องเข้าใจกว่าสินค้าหรือบริการ แบรนด์เราเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหรือยัง ดังนั้นจึงควรเริ่มจากการเก็บข้อมูลแล้ววิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายว่าพวกเขามีไลฟ์สไตล์อย่างไร มีปัญหาแบบไหน ชอบเสพคอนเทนต์อะไร ใช้ช่องทางการสื่อสารแบบไหนบ้าง หากเราได้รู้ข้อมูลดังนี้ ก็จะทำให้เลือกรูปแบบการทำ Affiliate ได้อย่างเหมาะสม และสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เช่น หากเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่ชอบการท่องเที่ยว คอนเทนต์ที่จะสื่อออกมาอาจจะเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบประหยัด คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินป่าหรืออุปกรณ์เดินป่า
2. เลือกช่องทางที่ต้องการทำ Affiliate Marketing
เมื่อทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีแล้ว ขั้นต่อมาก็ต้องเลือกช่องทางที่จะใช้ในการทำ Affiliate ให้เหมาะสมกับแบรนด์ และต้องคิดต่อว่าช่องทางนั้นควรจะทำคอนเทนต์แบบไหนดีเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งวันนี้เราก็คัดแพลตฟอร์มยอดนิยมที่เหมาะกับการใช้กลยุทธ์นี้มาให้แล้ว
- Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับได้หลากหลายรูปแบบคอนเทนต์ มีกลุ่มเป้าหมายที่กว้าง เพราะก็ยังเป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียอันดับ 1 ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก คอนเทนต์สำหรับการทำ Affiliate Facebook ที่เหมาะกับช่องทางนี้จะต้องสร้างยอด Engagement ได้ เช่น คอนเทนต์ How to ทริค การให้ความรู้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ และสามารถสอดแทรกสินค้าเพื่อขายไปพร้อมกับคอนเทนต์ได้
- Instagram แพลตฟอร์มนี้จะเหมาะกับคอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพ และวิดีโอเป็นหลัก เหมาะกับคอนเทนต์ที่เน้นให้เห็นรูปภาพของตัวสินค้าเยอะ ๆ หรืออาจจะให้พาร์ทเนอร์ใช้ฟีเจอร์ให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามผ่าน IG story แล้วมาตอบพร้อมให้คำแนะนำ เช่น แนะนำเครื่องสำอาง แนะนำไอเทมทำความสะอาดบ้าน ซึ่งตรงนี้เป็นอีกช่องทางที่จะใช้ Tie in สินค้าพร้อม แปะลิงก์ Affiliate ได้
- X เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในการทำ Affiliate เพราะสามารถใช้ Keyword หรือ Hashtag เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ นอกจากนี้ X ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Community ที่ให้คนเข้ามาแลกเปลี่ยนความเห็น ให้คำแนะนำ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชุมชนนั้น ๆ โดยจะมีหลากหลาย Community เช่น รีวิวบิวตี้ สกินแคร์ ซึ่งช่องทางตรงนี้เหมาะกับการทำ Affiliate เป็นอย่างมาก เพราะพาร์ทเนอร์จะสามารถให้คำแนะนำพร้อมกับแปะลิงก์ Affiliate เพื่อให้เข้าถึงสินค้าของแบรนด์คุณได้
- TikTok แน่นอนว่าคอนเทนต์ของแพลตฟอร์นี้จะต้องเป็นวิดีโอสั้นอยู่แล้ว ดังนั้นคอนเทนต์ที่ออกมาควรจะกระชับเข้าใจง่าย ให้เห็นถึงประสบการณ์การใช้สินค้า หรือบริการนั้นจริง ๆ ทั้งนี้อาจจะต้องปล่อยให้ Influencer หรือพาร์เนอร์ต่าง ๆ ทำคอนเทนต์ที่เป็นสไตล์ตัวเอง เพราะจะได้มีความเป็นธรรมชาติเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ติดตามได้
3. เลือกพาร์ทเนอร์ที่สร้างความเชื่อใจต่อกลุ่มเป้าหมายได้
เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนสมัยนี้เป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น สิ่งที่จะทำให้คนเชื่อใจว่าสินค้าจะตรงปกตามคำขายคือ “การรีวิว” และมักจะเชื่อใจมากขึ้นไปอีกเมื่อคนที่รีวิวเป็นบุคคลที่อิทธิพลทางสื่อออนไลน์ อย่าง “Influencer” และ “Blogger” ทำให้เแบรนด์ก็ต้องเลือก Influencer หรือ Blogger ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี และตรงกับประเภทของสินค้า หรือบริการของตนเองให้ดี เช่น หากเป็นประเภทเครื่องสำอางก็ต้อง Beauty blogger หากเป็นโรงแรมก็ต้องเลือก Influencer ที่เป็นสายท่องเที่ยว เพราะคนก็จะมีมุมมองว่าขนาดบุคคลที่เขาเชื่อถือยังใช้สินค้า หรือบริการนี้ ก็คงเป็นสิ่งที่ดีมีคุณภาพจริง ๆ จึงเหมือนเป็นการบอกปากต่อปากผ่านโลกออนไลน์
- การใช้ Influencer ทำ Affiliate จะเหมาะกับสินค้าหรือบริการ ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย ช่วยสร้าง Awareness ได้ดี
- การใช้ Blogger ทำ Affiliate จะเหมาะกับสินค้า หรือบริการที่จำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ลึกมากขึ้น เพราะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลด้านความคุ้มค่าของตัวสินค้าได้มากกว่า
ทั้งนี้การทำ Affiliate อาจไม่จำเป็นต้องใช้คนดัง ใช้คนธรรมดาก็ได้ เพียงแต่คอนเทนต์ที่ออกมานั้น จะต้องมีความจริงใจ ได้เห็นถึงประโยชน์ของสินค้าหรือบริการนั้นจริง ๆ ไม่ใช่เน้นเพื่อการโฆษณา แต่ก็ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่จะมีอัลกอริทึมดันคอนเทนต์ของคนที่แม้เราจะไม่ได้ติดตามให้ขึ้นฟีด เพื่อที่จะช่วยสร้าง Awareness ได้มากขึ้น
4. สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจอย่างจริงใจ
กลยุทธ์ Affiliate Marketing แน่นอนว่าต้องมาคู่กับการสร้าง Content Marketing หรือการรีวิวที่น่าสนใจ คอนเทนต์การรีวิวที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เพื่อการโฆษณา หรือยัดเยียดการขายเพื่อให้คนอยากซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ต้องเป็นคอนเทนต์ที่จริงใจ ให้ผู้อ่านหรือผู้ชมได้รู้สึกว่าได้ประโยชน์จากคอนเทนต์นั้นจริง ๆ จนเกิดความรู้สึกดึงดูดอยากลองใช้สินค้า หรือบริการนั้นขึ้นมาด้วยตนเอง
5. ส่งเสริมแคมเปญ ยื่นข้อเสนอที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย
แน่นอนว่าพฤติกรรมสายช็อปทั้งหลายชอบอะไรที่เป็นการลด แลก แจก แถมอยู่แล้ว ดังนั้นอีกเทคนิคในการทำ Affiliate เพื่อดึงดูดลูกค้าคือการทำแคมเปญโปรโมชันต่าง ๆ เช่น หากต้องการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ก็อาจทำโปรโมชันลดราคาสำหรับการสมัครสมาชิกและการซื้อครั้งแรก หรือหากเป็นการบริการอาจให้สมัครสมาชิกเพื่อทดลองใช้ฟรีครั้งแรก ที่สำคัญแล้วในช่องทาง E-commerce จะมีกิจกรรมแคมเปญช่วงลดราคาต่าง ๆ โดยจะมีโค้ดส่วนลด หากแบรนด์ของคุณเข้าร่วมด้วย ก็จะยิ่งช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากเป็นพิเศษเลยทีเดียว
สรุป
เทคนิคการทำ Affiliate Marketing ให้ออกมามีประสิทธิภาพนั้น ต้องเริ่มจากการที่แบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องทำความรู้จักกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีก่อน เพื่อที่จะได้วางแผนการเลือกใช้แพลตฟอร์ม พาร์ทเนอร์ เข้ามาช่วยโปรโมตได้อย่างถูกจุด จึงเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง ที่จะช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้มากขึ้น และพร้อมปิดการขายได้เลยทันที ถือว่ากลยุทธ์นี้เป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ของคุณก้าวกระโดดได้อย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ 090-293-8951 (คุณกอล์ฟ ฝ่ายการตลาด)
Facebook: Kollective – Integrated Influencer Marketing Optimize